ไส้กรองอากาศรถยนต์ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ถึงจะดี?

ไส้กรองอากาศรถยนต์นั้นเป็นอุปกรณ์สำคัญที่เจ้าของรถทุกคนควรเอาใส่ใจและดูแลบำรุงรักษาเป็นอย่างดีเพราะไส้กรองอากาศรถยนต์ที่สะอาดและมีคุณภาพดีจะช่วยเพิ่มสมรรถนะให้กับรถยนต์ของคุณได้อย่างที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาที่จะเกิดจากไส้กรองอีกด้วย ดังนั้นคุณจึงควรหมั่นตรวจเช็คและทำความสะอาดไส้กรองอยู่เป็นประจำ สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าควรจะเปลี่ยนไส้กรองอากาศรถยนต์เมื่อไหร่ถึงจะดี ลองอ่านบทความนี้เพื่อเป็นแนวทางดูกันนะคะ

สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าถึงเวลาที่เราควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศรถยนต์มีดังนี้

1. เครื่องยนต์กำลังแผ่วลง หรือเร่งเครื่องยนต์ไม่ขึ้นหรือมีอาการกระตุก

2. เครื่องยนต์มีอาการสั่น

3. ใช้น้ำมันหรือเชื้อเพลิงมากผิดปกติ

4. ควันที่ออกมาจากท่อไอเสียมีสีดำหรือสีเข้มผิดปกติ

โดยปกติแล้วเครื่องกรองอากาศชนิดกระดาษทั่วๆ ไปต้องมีการเปลี่ยนทุกๆ 20,000 กิโลเมตร แต่ถ้าหากขับเข้าไปในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองหรือควันเยอะๆ ก็ควรจะเปลี่ยนทุกๆ 10,000 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังควรถอดออกมาเป่าทำความสะอาดในทุกๆ 5,000 กิโลเมตรเพื่อป้องกันการอุดตันของไส้กรองและเพื่อให้รถยนต์ขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ถ้าหากเป็นไส้กรองอากาศผ้าฝ้ายหรือผ้าใยสังเคราะห์จะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่ากระดาษโดยเฉลี่ย 50,000-100,000 กิโลเมตร และสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้อย่างสะดวกสบายตามที่ต้องการ ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยและไม่อุดตันง่ายเท่ากับชนิดกระดาษ รวมทั้งยังสามารถกันฝุ่นละอองได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาไส้กรองอากาศที่มีคุณภาพ มีความคุ้มค่า สามารถดักจับฝุ่นละอองได้อย่างอยู่หมัด ไม่อุดตันง่าย อากาศไหลผ่านได้ดี ไม่ต้องเปลี่ยนไส้กรองบ่อยๆ และสามารถนำมาทำความสะอาดได้อย่างสะดวกสบายรวมทั้งสามารถตอบโจทย์ได้ในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์ ช่วยให้เครื่องยนต์เร่งได้ดียิ่งขึ้น ช่วยประหยัดการใช้เชื้อเพลิงและน้ำมัน และถนอมให้รถยนต์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นอยู่ล่ะก็ ขอให้คุณเปลี่ยนมาใช้ไส้กรองอากาศรถยนต์แฟบริคซ์ของเราเพราะแฟบริคซ์สามารถตอบสนองทุกความต้องการของคุณ ทั้งช่วยลดปัญหาต่างๆ ที่รบกวนจิตใจของคุณและประหยัดเงินในกระเป๋าสตางค์ของคุณได้อีกด้วย