กรองอากาศเริ่มตัน เป่าลมอันตรายไหม ?

การใช้เครื่องเป่าลมแรงดันสูง เป่าไล่ฝุ่นและสิ่งสกปรก ที่ติดอยู่ในไส้กรองอากาศรถยนต์ออก เป็นวิธีที่ใครๆหลายคนใช้ในการดูแลไส้กรองอากาศ แทนการเปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่ เป็นวิธีที่ถูกต้องหรือไม่ แล้วกรองอากาศควรเปลี่ยนเมื่อไร ? ไส้กรองอากาศเป็นอุปกรณ์สำคัญในรถยนต์ที่ถูกมองข้าม

มีหน้าที่ช่วยดักจับฝุ่นแลกสิ่งสกปรก ไม่ให้เข้าสู่เครื่องยนต์ เมื่อใช้งานไปได้ระยะหนึ่ง ไส้กรองอากาศจะมีทั้งสิ่งสกปรกที่ติดแน่น และคราบไอน้ำมัน จากท่อไอเสียรถคันอื่น ทำให้ไส้กรองอากาศอุดตัน ทำให้ออกซิเจนเข้าไปได้น้อยลง ทำให้การเผาไหม้ทำได้ไม่สมบูรณ์ เกิดควันดำ กำลังน้อยลง วิ่งไม่ออก แร่งไม่ขึ้น และทำให้เราต้องเปลี่ยนกรองอากาศใหม่

แน่นอนว่าการเปลี่ยนกรองอากาศบ่อยๆทั้งสิ้นเปลือง และเสียเวลา จึงมีหลายๆคนที่ไม่อยากเปลี่ยน แต่ใช้วิธีถอดไส้กรองอากาศรถยนต์ออกมา เป่าไล่สิ่งสกปรกออกด้วยเครื่องเป่าแทน ซึ่งก็อาจจะทำได้ถ้าแรงลมไม่แรงเกินไป และกรองอากาศไม่มีความสกปรกมาก หรือ ไม่มีคราบน้ำมัน แต่ในกรณีที่ไส้กรองอากาศมีสิ่งสกปกรเกาะติดแน่น ดำแข็งทั่วทั้งแผ่น การเป่าลมแบบนี้ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ที่สำคัญหากเป่าลมแรงเกินไป มีโอกาสที่จะทำให้ตัวไส้กรองอากาศเสื่อมสภาพ เกิดการขยายตัวของช่องอากาศทำให้มีโอกาศที่ฝุ่นขนาดใหญ่ หลุดเข้าไปในห้องเผาไหม้ได้ เสียดสีกระบอกสูบทำให้เครื่องยนต์หลวมได้อีกด้วย โดยทั่วไปแล้วกรองอากาศมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 10,000 กม. ขึ้นไป แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในการใช้รถอีกด้วย เช่นผู้ใช้รถบนทางฝุ่นทุกวัน กรองอากาศย่อมสกปรกและอุดตันเร็วกว่าผู้ใช้รถบนถนนปกติไม่ค่อยมีฝุ่น ทำให้เราควรหมั่นตรวจสอบกรองอากาศ และเปลี่ยนเมื่อพบว่ากรองอากาศหมดสภาพแล้ว จะเป็นการดีที่สุดนะคะ